1.เป็นการแบ่งใส่ปุ๋ยทีละน้อยจึงมีประสิทธิภาพสูง การสิ้นเปลืองน้อย
2.ประหยัดแรงงานในการให้ปุ๋ยโดยการหว่าน
3.การกระจายของปุ๋ยสม่ำเสมอ
4.สามารถควบคุมการกระจายของปุ๋ยได้ดี
5.สามารถกำหนดปุ๋ยที่ให้แก่พืชได้ตามการเจริญเติบโตงอกงาม
การให้ปุ๋ยจะได้ผลดีเมื่อเลือกใช้ระบบน้ำแบบหยดและระบบฉีดฝอย สำหรับการจ่ายน้ำแบบฉีดฝอย ปุ๋ยจะครอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าการให้น้ำแบบหยด สำหรับปุ๋ยบางประเภทเมื่อทำละลายกับน้ำแล้วปุ๋ยจะตกตะกอนซึ่งมีผลเสียคือต้องต้องมีการล้างอุปกรณ์กรองบ่อยขึ้นกว่าเดิม จึงควรทดสอบว่าปุ๋ยที่จะนำเข้ามาใช้ร่วมกันมีปัญหาการตกตะกอนหรือไม่
อัตราปุ๋ยที่จะใช้ขึ้นอยู่กับปัจจัย2ประการคือ
1.ปัจจัยด้านดิน ความอุดมสมบูรณ์ของดิน และธาตุอาหารที่จะให้กับดินควรเหมาะสมกัน
2.ปจจัยด้านพืช เช่น ชนิด ขนาด ของพืช ปริมาณผลผลิตที่จะเก็บเกี่ยวในแต่ฤดูกาล
เพื่อป้องกันไม่ให้รากพืชเป็นอันตรายเนื่องจากการให้ปุ๋ยที่มีความเข้มข้นสูงเกินไป ดังนั้นปริมาณการผสมปุ๋ยกับน้ำควรคำนึงถึงสัดส่วนการผสมเป็นสำคัญ การกำหนดแผนการใช้ปุ๋ยร่วมกับน้ำแก่พืชต้องพิจารณาปัจจัยหลัก คือ ชนิดของดิน ปริมาณธาตุอาหาร ปริมาณน้ำที่จะให้ในแต่ละครั้ง
การให้ปุ๋ยในระบบน้ำไม่ได้หมายความว่า ต้องให้ปุ๋ยทุกตัวกับระบบน้ำเสมอไป อาจให้เฉพาะโปรแตสเซี่ยมและไนโตรเจนพร้อมระบบน้ำ แต่ให้ฟอสฟอรัสทางดินก็ได้ เนื่องจากปุ๋ยฟอสฟอรัสที่ละลายน้ำมีราคาแพง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น